คนพิการ หรือ บุคคลทุพพลภาพ หมายถึง บุคคลซึ่งมีความสามารถถูกจำกัดให้ปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และการมีส่วนร่วมทางสังคมได้โดยวิธีการทั่วไป เนื่องจากมีความบกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การสื่อสาร จิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม สติปัญญาและการเรียนรู้และมีความต้องการจำเป็นพิเศษด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป คนพิการไม่ว่าจะพิการมากขนาดไหน มากจนแม้ขยับร่างกายไม่ได้ทุกส่วน เขาก็ยังเป็นคนมีความรู้สึกนึกคิด มีความต้องการ มีทุกข์ มีสุข เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป คนพิการที่มีความพิการมากๆ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้ในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ต้องพึ่งญาติพี่น้องหรือคนดูแล ความทุกข์ ความสุขของคนที่อยู่ในสภาพต้องพึ่งคนอื่น คือคนช่วยมักจะคิดและกำหนดเอาเองว่าคนพิการ ต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร ทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ ความต้องการของคนพิการที่ไม่ตรงกับความคิดของคนดูแลช่วยเหลือก็ไม่ได้รับการตอบสนอง นี่คือทุกข์อันสาหัสของคนพิการที่ช่วยตัวเองไม่ได้
ความต้องการใน การดำรงชีวิตอิสระของคนพิการ ก็คือการมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกับคนทั่วไป มีโอกาสในการตัดสินใจในเรื่องที่กระทบต่อชีวิตตน สามารถเลือกดำเนินกิจกรรมตามที่ต้องการ หากจะมีข้อจำกัดก็เป็นข้อจำกัดเช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป เช่น กฏเกณฑ์ทางสังคม เป็นต้น นั้นก็คือว่าการมีชีวิตด้วยตัวของตัวเอง มีงานทำ มีรายได้เป็นของตัวเองและมีสิทธิและโอกาสเลือกหนทางปฏิบัติเอง และมีอิสระเสรีที่จะประสบความล้มเหลวหรือเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น เช่นเดียวกับคนทั่วไป คนทั่วไปมักมองความผิดพลาดล้มเหลวของคนพิการเป็นเรื่องแปลก และพยายามป้องกันจึงกลายเป็นการกีดกันเลือกปฏิบัติในที่สุด ทั้งที่คนทั่วไปก็ทำผิดพลาดกันอยู่เสมอ ดังนั้นไม่ว่าคนพิการหรือคนปกติก็มีสิทธิเสรีเท่าเทียมกันแต่คนพิการนั้นมักจะถูกมองจากผุ้อื่นว่าเป็นภาระของสังคมชึ่งคนพิการแต่ละประเภทมีรายละเอียดความพิการในกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ กำหนดลักษณะ ดังนี้
พิการทางการมองเห็น
คือ คนที่มีสายตาข้างที่ดีกว่าเมื่อใช้แว่นสายตา ธรรมดา แล้วมองเห็นน้อยกว่า 6/18 หรือ 20/70 จนมองไม่เห็นแม้แต่แสงสว่าง หรือมีลานสายตาแคบกว่า 30 องศา
พิการทางการได้ยินและสื่อความหมาย
การได้ยิน
-เด็กอายุน้อยกว่า 7 ปี ลักษณะความพิการ คือ หูตึงปานกลาง หูตึงมาก หูตึงรุนแรง หูหนวก ความดังเฉลี่ยเกิน 40 เดซิเบล จนไม่ได้ยิน ระดับความผิดปกติ 2 ถึง 5
-เด็กอายุเกิน 7 ปี ถึงผู้ใหญ่ ลักษณะความพิการ คือ ความผิดปกติ หูตึงมาก หูตึงรุนแรง หูหนวก ความดัง 55 เดซิเบลขึ้นไป ระดับความผิดปกติ 2 ถึง 5
พิการทางกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ
ความพิการ คนที่มีความผิดปกติหรือความบกพร่องของร่างกายเห็นชัดเจน และคนที่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจวัติ ในชีวิตประจำวัน ได้ ระดับความผิดปกติ 3 ถึง 5
พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม
ลักษณะความพิการ คนที่มีความผิดปกติ ความบกพร่องทางจิตใจหรือสมองในส่วนรับรู้ อารมณ์ความคิดจนไม่สามารถควบคุมพฤติกรรม ที่จำเป็นในการดูแลตนเอง หรืออยู่ร่วมกับผู้อื่น ระดับความผิดปกติ ระดับที่ 1 และระดับที่ 2
พิการทางสติปัญญาหรือการเรียนรู้
ลักษณะพิการ คือ คนที่มีความผิดปกติ หรือความ บกพร่องทางสติปัญญาหรือสมอง จนไม่สามารถเรียนรู้ด้วยวิธีการศึกษา ปกติได
พิการซ้ำซ้อน
มีความพิการมากกว่า 1 ลักษณะขึ้นไป เด็กพิการซ้ำซ้อน เด็กพิการซ้ำซ้อน หมายถึง เด็กที่มีสภาพความบกพร่องหรือความพิการมากกว่าหนึ่งอย่างในบุคคลเดียวกัน เช่น เด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็นกับบกพร่องทางการได้ยิน หรือบกพร่องทางการได้ยินกับบกพร่องทางสติปัญญา เป็นต้น
ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของคนพิการ
สัญญาลักษณ์ของคนพิการนั้นก็คือดอกแก้วกัลยาชึ่งดอกแก้วกัลยานี้ได้รับประทานชื่อจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าพระพี่นางนี่ได้ประทานให้แก่คนพิการทั่วทั้งประเทศและยังได้เป็นการส่งเสริมอาชีพให้แก่คนพิการด้วยเพราะดอกแก้วกัลยานี่เป็นฝีมือการทำของผู้พิการด้วย
ดอกเเก้วกัลยา
สำหรับคนพิการในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและมีประชากรราวประมาณ 63ล้านคนชึ่งในจำนวนนี้ในประเทศไทยก็มีผู้พิการอาศัยอยู่ด้วยราวประมาณ 1,100,80080 คน คิดเป็น1.8ของคนในประเทศ ชึ่งคนพิการส่วนใหญ่จะมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายโดยส่วนใหญ่คนพิการมักจะเป็นผุ้ชายมากกว่าผู้หญิง ชึ่งสาเหตุของการพิการนั้นบางคนก็พิการมาแต่กำเนิด แต่บางคนก็พิการจากอุบัติเหตุ ชึ่งเราจะสังเกตเห็นได้จากคนพิการส่วนใหญ่เป็นชายมากกว่าหญิงชึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดการเมาแล้ว ชึ่งผมขอเสนอข้อมูลตัวอย่างชึ่งประมวลจากฐานข้อมูลทะเบียนคนพิการ จากสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการแห่งชาติชึ่งเป็น เด็กพิการตั้งแต่แรกเกิด - 18 ปี ชึ่งได้รับการจดทะเบียนคนพิการแล้ว ชึ่งผมจะเสนอข้อมูลเปรียบเทียบผ่านกราฟทั้งสามกราฟนี่ ดังนี้
1.ข้อมูลเด็กพิการทั่วประเทศ จำแนกตามช่วงอายุ แรกเกิดถึง18ปีแยกตามเพศและภาค
2 ข้อมูลเปรียบเทียบเด็กพิการแต่ละภาค จำนวนเด็กพิการ(คน)รวมทั้งสิ้น
3 ข้อมูลเปรียบเทียบเพศที่มีความพิการเยอะที่สุด
ตารางที่ 1.ข้อมูลเด็กพิการทั่วประเทศ จำแนกตามช่วงอายุ แรกเกิดถึง18ปีแยกตามเพศและภาค
สำหรับในกราฟที่1นี้ป็นกราฟที่แสดงจำนวนคนพิการในแต่ล่ะภาคชึ่งแบ่งเพศชายหญิงสำหรับคนพิการชึ่งขอสรุปเป็นภาคๆโดยแบ่งชายหญิงดังนี้จะขอเรียงตั้งแต่ภาคที่มีผู้พิการเยอะที่สุดไปหาน้อยที่สุด ชึงสรุปได้ดังนี้
1.ภาคเหนือมีผู้พิการผู้ชายเยอะที่สุดจำนวนถึง 32,139
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้พิการหญิงเยาะที่สุด 31,377
ตารางที่ 2 ข้อมูลเปรียบเทียบเด็กพิการแต่ละภาค จำนวนเด็กพิการ(คน)รวมทั้งสิ้น
กราฟที่2นี้เป็นกราฟที่แสดงจำนวนผู้พิการในแต่ล่ะภาคว่าภาคใดมีอัตราผู้พิการมากที่สุดซึ่งผมจะขอเรียงจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด
ลำดับ | ภาค | จำนวนผู้พิการ(คน) |
1 | ภาคเหนือ | 62,292 |
2 | ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | 61,401 |
3 | ภาคกลาง | 54,857 |
4 | ภาคใต้ | 31,467 |
5 | ภาคตะวันออก | 8,058 |
6 | กรุงเทพมหานคร | 6,,215 |
ตารางที่3 ข้อมูลเปรียบเทียบเพศที่มีความพิการเยอะที่สุด
กราฟที่3นี้เป็นกราฟที่เปรียบเทียบจำนวนรวมของผู้พิการชายหญิง ซึ่งเป็นกราฟที่รวมทุกภาคว่าเพศใดมีจำนวนคนพิการเยาะกว่ากัน
1.เพศชาย จำนวน 112,925คน
2.เพศหญิง จำนวน 111,925คน
สรุป
คนพิการเป็นบุคลที่ทุพพลภาพ อาจจะช่วยเหลือตนเองได้บ้างไม่ได้บ้างและสำหรับในประเทศไทยนี้ก็ถือได้ว่ามีผู้พิการอาศัยอยู่จำนวนไม่น้อยสำหรับแนวทางในการปฎิบัติต่อคนพิการนั้นคนในสังคมนั้นไม่ควรดูถูกพวกเขาและไม่ควรว่าเขาเป็นปัญหาของสังคมสำหรับคนพิการนี้เป็นบุคคลที่ต้องได้รับความช่วยเหลือได้รับการดูแลจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะทางรัฐบาลควรจัดสวัสดิการให้ครอบคลุมในทุกด้านแก่พวกเขาด้วย ชึ่งสัญญาลักษณ์ของผู้พิการนี้ชึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชึ่งทรงประธานชื่อว่าดอกแก้วกัลยาชึ่งถือได้ว่าพระองค์ท่านทรงมีความเป็นห่วงแก่คนพิการด้วยและยังคงหาอาชีพมาให้แก่คนพิการด้วยนั้นก็คือการทำดอกแก้วกัลยาจำหน่ายชึ่งฝีมือในการประดิษฐ์ดอกแก้วกลัยานี้ส่วนใหญ่จะมาจากผู้พิการทั้งสิ้น
สำหรับสิ่งที่คนพิการนั้นต้องการจากทางสังคมนั้นก็คือการใช้ชีวิตในสังคมให้มีความเสมอภาคเท่ากับคนปกติทางสังคมเพราะผู้พิการส่วนใหญ่มักจะถูกปฎิเสธจากสังคมอย่างเช่นในด้านการทำงาน พวกเขาเหล่านี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนในสังคมจะให้โอกาสที่ดีแก่พวกเขา
ข้อเสนอแนะ
1.รัฐควรจะกระจายความช่วยเหลือการจัดสวัสดิการให้ทั่วถึงครอบคลุมทั้งชนบทและในเมือง
2.ควรจัดหาอาชีพเสริมให้แก่พวกเขา
3.ไม่ควรเว้นช่องว่างระหว่างคนพิการกับคนปกติเช่นในการประกอบอาชีพ
4.ควรให้กำลังใจแก่พวกเขาไม่ควรดูถูกและว่าเขาเป็นปมด้อยของสังคม
อ้างอิง